หน่วยที่ 1


นวัตกรรม และเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
ความหมายของนวัตกรรม Innovation
นว แปลว่า ใหม่ กรรม แปลว่า หลักปฎิบัติ หรือ วิธีการ  นวตกรรม หรือ  นวกรรม คือ วิธีการปฏิบัติใหม่ๆ ที่แปลกไปจากเดิม  โดยอาจจะได้มาจากการคิดค้นพบวิธีการใหม่ ๆ ขึ้นมาหรือการปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่เหมาะสมและสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการทดลอง พัฒนามาจนเป็นที่เชื่อถือได้แล้วว่าได้ผลดีในทางปฏิบัติ  ทำให้ระบบก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างมี ประสิทธิภาพเมื่อมีการนำเอาความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เข้ามาใช้เพื่อปรับปรุงงานให้ดีขึ้นกว่าเดิมก็เรียกได้ว่าเป็นวัตกรรม ของวงการนั้น ๆ เช่นในวงการศึกษานำเอามาใช้ก็เรียกว่า นวัตกรรมการศึกษา” (Educational Innovation) สำหรับผู้ที่กระทำ หรือนำความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ มาใช้นี้เรียกว่าเป็นนวัตกร”(Innovator)    (boonpan edt01.htm)
           มอร์ตัน (Morton,J.A.) ให้ความหมาย นวัตกรรมว่าเป็นการทำให้ใหม่ขึ้นอีกครั้ง (Renewal) ซึ่งหมายถึง การปรับปรุงสิ่งเก่าและพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ตลอดจนหน่วยงาน หรือองค์การนั้น ๆ นวัตกรรม ไม่ใช่การขจัดหรือล้มล้างสิ่งเก่าให้หมดไป แต่เป็นการปรับปรุงเสริมแต่งและพัฒนา (boonpan edt01.htm)
           ทอมัส ฮิวช (Thomas Hughes) ได้ให้ความหมายของ นวัตกรรมว่า เป็นการนำวิธีการใหม่ ๆ มาปฏิบัติหลังจากได้ผ่านการทดลองหรือได้รับการพัฒนามาเป็นขั้น ๆ แล้ว เริ่มตั้งแต่การคิดค้น (Invention) การพัฒนา (Development) ซึ่งอาจจะเป็นไปในรูปของ โครงการทดลองปฏิบัติก่อน (Pilot Project) แล้วจึงนำไปปฏิบัติจริง ซึ่งมีความแตกต่างไปจากการปฏิบัติเดิมที่เคยปฏิบัติมา (boonpan edt01.htm)
          ไชยยศ เรืองสุวรรณ (2521: 14) ได้ให้ความหมาย นวัตกรรมไว้ว่าหมายถึง วิธีการปฎิบัติใหม่ๆ ที่แปลกไปจากเดิมโดยอาจจะได้มาจากการคิดค้นพบวิธีกาใหม่ๆ ขึ้นมาหรือมีการปรับปรุงของเก่าให้เหมาะสมและสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการทดลอง พัฒนาจนเป็นที่เชื่อถือได้แล้วว่าได้ผลดีในทางปฎิบัติ ทำให้ระบบก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น
ความหมายของนวัตกรรมทางการศึกษา
นวัตกรรมทางการศึกษา หมายถึง การนำเอาสิ่งใหม่ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของความคิดหรือการกระทำรวมทั้งสิ่งประดิษฐ์ก็ตามเข้ามาใช้ในระบบการศึกษาเพื่อมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่มีอยู่เดิมให้ระบบการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นทำให้ผู้เรียนสามารถเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วเกิดแรงจูงใจในการเรียนและช่วยให้ประหยัดเวลาในการเรียน เช่น การสอนใช้คองพิวเตอร์ช่วย การใช้วีดิทัศน์เชิงโต้ตอบ(Interactive Video) สื่อหลายมิติ (Hypermedia) และอินเตอร์เน็ต เหล่านี้เป็นต้น
แนวคิดพื้นฐานของนวัตกรรมทางการศึกษา
1. ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual Different)
                การจัดการศึกษาของไทยได้ให้ความสำคัญในเรื่องความแตกต่างระหว่างบุคคลเอาไว้อย่างชัดเจนให้มุ่งจัดการศึกษาตามความถนัดความสนใจ และความสามารถ ของแต่ละคนเป็เกณฑ์ นวัตกรรมที่สนองแนวความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น
-   แบบเรียนสำเร็จรูป (Programmed Text Book)
-   เครื่องคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction)
2. ความพร้อม (Readiness)
                เดิมทีเชื่อกันว่า เด็กจะเริ่มเรียนได้ก็ต้องมีความพร้อมซึ่งเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติ แต่ใปัจจุบันการวิจัยทางด้านจิตวิทยาการเรียนรู้ ชี้ให้เห็นว่าความพร้อมในการเรียนเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นได้ ถ้าหากสามารถจัดบทเรียน ให้พอเหมาะกับระดับความสามารถของเด็กแต่ละคนนวัตกรรมที่สนองแนวความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น
-                   ศูนย์การเรียน (Learning Center)
-                   การจัดโรงเรียนในโรงเรียน (School within School)
3. การใช้เวลาเพื่อการศึกษา
แต่ก่อนการจัดเวลาเพื่อการสอนหรือตารางสอนมักจะจัดโดยอาศัยความสะดวกเป็นเกณฑ์ เช่นถือหน่วยเวลาเป็นชั่วโมงเท่ากันทุกวิชา ในปัจจุบันได้มีความคิดในการจัดเป็นหน่วยเวลาสอนให้สัมพันธ์กับลักษณะของแต่ละวิชาซึ่งจะใช้เวลาไม่เท่ากัน นวัตกรรมที่สนองแนวความคิดพื้นฐานด้านนี้ เช่น
 - การจัดตารางสอนแบบยืดหยุ่น (Flexible Scheduling)
 - การเรียนทางไปรษณีย์
4. ประสิทธิภาพในการเรียน
การขยายตัวทางวิชาการ และการเปลี่ยนแปลงของสังคม ทำให้มีสิ่งต่างๆ ที่คนจะต้องเรียนรู้เพิ่มขึ้นมาก แต่การจัดระบบการศึกษาในปัจจุบันยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอจึงจำเป็นต้องแสวงหาวิธีการใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นนวัตกรรมในด้านนี้ที่เกิดขึ้น เช่น
  - การเรียนทางวิทยุ การเรียนทางโทรทัศน์
  - การเรียนทางไปรษณีย์ แบบเรียนสำเร็จรูป
หลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาว่าสิ่งใดคือ นวัตกรรม
1.  เป็นสิ่งใหม่ทั้งหมดหรือบางส่วน
2.  มีการนำวิธีการจัดระบบ (System Approach) มาใช้พิจารณาองค์ประกอบทั้งส่วน ข้อมูลที่  ใช้เข้า ไปในกระบวนการและผลลัพธ์ให้เหมาะสมก่อที่จะทำการเปลี่ยนแปลง
3.  มีการพิสูจน์ด้วยการวิจัยหรืออยู่ระหว่างการวิจัยว่าจะช่วยให้ดำเนินงานบางอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
4.  ยังไม่เป็นส่วนหนึ่งในระบบงานปัจจุบัน
ประโยชน์ของนวัตกรรมทางการศึกษา
1)  นักเรียนเรียนรู้ได้เร็วขึ้น                                                            
2) บทเรียนน่าสนใจ
3)  นักเรียนเข้าใจบทเรียนเป็นรูปธรรม                        
4) ลดเวลาในการสอน
5)  บรรยากาศการเรียนสนุกสนาน                                
6) ประหยัดค่าใช้จ่าย
นวัตกรรมทางการศึกษาในประเทศไทย
1. ชุดการสอน
                   ชุดการสอน  คือ  การนำเอาสื่อประสมมาใช้เปลี่ยนแปลง พฤติกรรมแต่ละคนให้บรรลุตามเป้าหมาย
2.บทเรียนสำเร็จรูป
        บทเรียนสำเร็จรูป เป็นบทเรียนซึ่งมีสื่อการสอนได้จัดประสบการณ์การเรียนรู้ไว้อย่างมีระบบและเป็นขั้นตอน
3.บทเรียนแบบโมดูล
 บทเรียนแบบโมดูล  หมายถึง  บทเรียนหน่วยใดหน่วยหนึ่งที่สำเร็จในตัว  สร้างสำหรับให้นักเรียนศึกษาด้วยตัวเอง
ชนิดของโมดูล  แบ่งได้ดังนี้
1.  โมดูลที่เป็นสิ่งพิมพ์
2.  โมดูลที่เป็นสื่ออื่น ๆ เช่น  สไลด์  เทป ฯลฯ
4.ศูนย์การเรียน (Learning Center)
        ศูนย์การเรียน หมายถึง สถานที่ซึ่งจัดบรรยากาศให้ผู้เรียนสามารถเข้าศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตัวเองจากโปรแกรมการสอน ซึ่งจัดไว้ในรูปชุดการสอน
5.การสอนเป็นคณะ (Team Teaching)
            การสอนเป็นคณะ   เป็นการสอนที่ต้องมีครูตั้งแต่  2 คนขึ้นไปร่วมกันรับผิดชอบการสอนในวิชาเดียวกันและร่วมกัน ประเมินผลการเรียนการสอนของนักเรียน
6.การสอนแบบจุลภาค (Micro Teaching)
        การสอนแบบจุลภาค คือ การสอนในสภาพการจำลองย่นย่อ เพื่อฝึกทักษะการสอนโดยการสอนกับนักเรียนกลุ่มขนาดเล็ก ๆ
7.การเรียนเพื่อความรอบรู้ (Mastery  Learning)
        บลูม ถือว่าการที่จะให้ผู้เรียนเกิดความรอบรู้ในการเรียน  ผู้เรียนจะต้องรอบรู้ในจุดใดจุดหนึ่งซึ่งเป็นขั้นต่ำสุดที่ผู้เรียนจะต้องรู้ จึงจะสามารถเรียนต่อไปได้
ขั้นตอนของการเรียน  เพื่อความรอบรู้ของบลูม
1.  รายวิชาแบ่งเป็นตอน ๆ หรือหน่วยย่อยให้ต่อเนื่องสัมพันธ์กัน
2.  กำหนดจุดประสงค์ในแต่ละหน่วยให้ชัดเจน
3.  กำหนดมาตรฐานของความรอบรู้
4.  ภารกิจในการเรียนรู้เหมือนการสอนในห้องเรียนปกติ
 5.  ทดสอบวินิจฉัยความก้าวหน้าในการเรียนของแต่ละหน่วย
6.  การสอนซ่อมเสริมเพิ่มเติม
7.  เมื่อสิ้นสุดการเรียนการสอนแต่ละหน่วยให้ประเมินผล
8.การสอนแบบศึกษาด้วยตัวเอง
จุดประสงค์ของการสอนแบบศึกษาด้วยตัวเอง
1.  เพื่อให้สอดคล้องและส่งเสริมการศึกษา
2.  เพื่อสนับสนุนความจริงที่ว่าเด็กมีความแตกต่างระหว่างบุคคล
ขั้นตอนการสอนแบบศึกษาด้วยตัวเอง
1.  ผู้เรียนกำหนดจุดประสงค์การเรียนรู้เอง
2.  ครูทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำแนะนำ
3.  นักเรียนสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างบุคคล
4.  ศึกษาเรื่องที่สนใจ
5.  นักเรียนจะต้องรับผิดชอบในเรื่องที่ศึกษา
6.  ครูต้องจัดเวลาและโอกาสให้กับผู้เรียน
นวัตกรรมทางการศึกษา ที่กล่าวถึงกันมากในปัจจุบัน
1.   E-learning
          เป็นคำที่ใช้เรียกเทคโนโลยีการศึกษาแบบใหม่ ที่ยังไม่มีชื่อภาษาไทยที่แน่ชัด และมีผู้นิยามความหมายไว้หลายประการ ผศ.ดร.ถนอมพร เลาห์จรัสแสง ให้คำนิยาม E-Learning หรือ Electronic Learning ว่า หมายถึง การเรียนผ่านทางสื่ออิเลคทรอนิกส์ซึ่งใช้การ นำเสนอเนื้อหาทางคอมพิวเตอร์ในรูปของสื่อมัลติมีเดียได้แก่ ข้อความอิเลคทรอนิกส์ ภาพนิ่ง ภาพกราฟิก วิดีโอ ภาพเคลื่อนไหว ภาพสามมิติฯลฯ การเรียนรู้แบบออนไลน์หรือ e-learning การศึกษาเรียนรู้ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์อินเทอร์เน็ต(Internet) เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ผู้เรียนจะได้เรียนตาม ความสามารถและความสนใจของตน โดยเนื้อหาของบทเรียนซึ่งประกอบด้วย ข้อความ รูปภาพเสียง วิดีโอและมัลติมีเดียอื่นๆ จะถูกส่งไปยังผู้เรียนผ่าน Web Browser โดยผู้เรียน ผู้สอน และ เพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคน สามารถติดต่อ ปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้เช่นเดียวกับ การเรียนในชั้นเรียนปกติ
สรุปความหมายของนวัตกรรม
Ø นวัตกรรม หมายถึงการทำสิ่งต่างๆด้วยวิธีใหม่ๆ และยังอาจหมายถึงการเปลี่ยนแปลงทางความคิด การผลิต กระบวนการ หรือองค์กร ไม่ว่าการเปลี่ยนนั้นจะเกิดขึ้นจากการปฏิวัติ การเปลี่ยนอย่างถอนรากถอนโคน หรือการพัฒนาต่อยอด ทั้งนี้ มักมีการแยกแยะความแตกต่างอย่างชัดเจน ระหว่างการประดิษฐ์คิดค้น ความคิดริเริ่ม และนวัตกรรม อันหมายถึงความคิดริเริ่มที่นำมาประยุกต์ใช้อย่างสัมฤทธิ์ผล (Mckeown, 2008)
Ø และในหลายสาขา เชื่อกันว่าการที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งจะเป็นนวัตกรรมได้นั้น จะต้องมีความแปลกใหม่อย่างเห็นได้ชัด และไม่เป็นแค่เพียงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เป็นต้นว่า ในด้านศิลปะ เศรษฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และนโยบายของรัฐ ในเชิงเศรษฐศาสตร์นั้น การเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเพิ่มมูลค่า มูลค่าของลูกค้า หรือมูลค่าของผู้ผลิต เป้าหมายของนวัตกรรมคือการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก เพื่อทำให้สิ่งต่างๆเกิดเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น นวัตกรรมก่อให้ได้ผลิตผลเพิ่มขึ้น และเป็นที่มาสำคัญของความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ

เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
เพื่อที่จะให้เข้าใจความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา เราคงจะต้องทำความเข้าใจกับคำต่างๆ ที่ประกอบเป็นคำนี้ อันได้แก่ เทคโนโลยี สาร และสนเทศ
       เทคโนโลยีมีความหมายถึง การประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ต่องานปฏิบัติทั้งหลาย เพื่อให้งานนั้นมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ
       สารสนเทศ อ่านว่า สาระ-สน-เทศสาร หรือ สาระ เป็นคำประกอบหน้าคำ แปลว่า สำคัญ สนเทศ หมายถึง คำสั่ง ข่าวสาร ใบบอก
       สารสนเทศ จึงหมายถึงข่าวสารที่สำคัญ เป็นระบบข่าวสารที่กำหนดขึ้น และจัดทำขึ้นภายในองค์การต่างๆ ตามความต้องการของเจ้าของหรือผู้บริหารองค์การนั้นๆ 
เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ ประมวลผล และเผยแพร่สารสนเทศ ซึ่งได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสาร และเทคโนโลยีคมนาคม
  เทคโนโลยีสารสนเทศ ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Information Technology หรือ IT
สรุป เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษา
คือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานด้านการศึกษา อันได้แก่ การจัดเก็บข้อมูล และประมวลผลฐานข้อมูล การพัฒนาระบบสารสนเทศช่วยการเรียนการสอน การวางแผนและการบริหารการศึกษา การวางแผนหลักสูตร การแนะแนวและบริการ การทดสอบวัดผล การพัฒนาบุคลากร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น